ประวัติ แม็กกี้ จิลเลนฮอลล์ (Maggie Gyllenhaal) นักแสดงหนังและนักกิจกรรมชาวอเมริกัน

1 min read

แม็กกี้ จิลเลนฮอลล์ (ประวัติ Maggie Gyllenhaal) เกิดวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1977 ในนิวยอร์กซิตี้ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นนักแสดงหนังและนักกิจกรรมชาวอเมริกัน แม็กกี้เป็นลูกสาวของผู้กำกับสื่อประสาทและผู้กำกับภาพยนตร์ สตีเฟ่น จิลเลนฮอล์ (Stephen Gyllenhaal) และนักแสดง โนอา ฟอนดา (Naomi Foner) มีพี่ชายชื่อ เจเค็บ (Jake Gyllenhaal) ที่เป็นนักแสดงดังอีกคนหนึ่ง

เธอเริ่มแสดงบทบาทในภาพยนตร์เมื่ออายุ 15 ปี แม็กกี้เริ่มจากบทเอเลนในภาพยนตร์เรื่อง “Waterland” ในปี ค.ศ. 1992 และต่อมาในปี ค.ศ. 1993 เธอได้รับบทบาทเล็กๆ ในหลายภาพยนตร์รวมถึง “A Dangerous Woman” และ “Homegrown” ในปี ค.ศ. 1995 แม็กกี้ได้รับความสนใจจากการแสดงบทระหว่างกันของภาพยนตร์เรื่อง “Secretary” ในปี ค.ศ. 2002 ที่เธอสร้างความปังใจและได้รับคำชมในบทบาทของเธอ

เธอได้รับความยอดเยี่ยมสำหรับการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “Sherrybaby” ในปี ค.ศ. 2006 ที่ได้นำเสนอบทบาทของเธอในบทของแม่ที่เพิ่งปล่อยตัวออกมาจากการจำคุกและพยายามกลับมาสร้างความสัมพันธ์กับลูกสาว ซึ่งบทบาทนี้ได้นำเธอไปสู่การเสนอชื่อในรางวัลทอนสตีน และการเสนอชื่อแห่งรางวัล ออสการ์

แม็กกี้ยังมีบทบาทที่สำคัญในหลายภาพยนตร์ เช่น “Crazy Heart” ในปี ค.ศ. 2009 และ “The Dark Knight” ในปี ค.ศ. 2008 ที่เธอแสดงบทเจล เดนท์ (Rachel Dawes) ภรรยาของบรูซ เวนท์ (Bruce Wayne) ที่นำแสดงโดย คริสต์เฟอร์ โนแลน

แม็กกี้ยังได้รับความสนใจจากการแสดงบทบาทในละครโทรทัศน์ เธอเป็นผู้นำแสดงในละครโทรทัศน์เรื่อง “The Honourable Woman” ในปี ค.ศ. 2014 ที่เธอได้แสดงบทบาทของนางเจ้าหญิง เนสตา ทีดลมาน ซึ่งได้รับรางวัล กีเลอโด้ และเธอได้รับคำชมสูงสุดสำหรับการแสดงบทบาทของเธอในละครโทรทัศน์

แม็กกี้ จิลเลนฮอลล์ ถือเป็นนักแสดงที่มีความหลากหลายในบทบาทและได้รับความรู้จักในวงการภาพยนตร์และการแสดงอย่างกว้างขวาง นอกจากการแสดงบทบาทในหนังแล้ว เธอยังเป็นนักกิจกรรมที่มีส่วนร่วมในการก่อตั้งและสนับสนุนองค์กรที่เป็นประโยชน์สังคมและเข้าร่วมในกิจกรรมการกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

มาร์กาลิต รูธ จิลเลนฮอล์ ซาร์สการ์ด ที่รู้จักกันดีในนาม แม็กกี้ จิลเลนฮอล์ เป็นนักแสดงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงด้วยบทบาทที่เล็กน้อยแต่มีความผลสำคัญในภาพยนตร์ โดดเด่นในบทบาทหลักของเธอในภาพยนตร์ ‘The Dark Knight’ แม็กกี้เป็นลูกสาวของผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง สตีเฟ่น จิลเลนฮอลล์ และนักเขียนบทภาพยนตร์ นาโอมิ โฟนเนอร์ และเป็นพี่สาวของนักแสดง เจค จิลเลนฮอล์ แม็กกี้เกิดที่นิวยอร์กและครอบครัวเข้าอยู่ที่ลอสแอนเจลิส เมื่อเธอเพิ่งเกิดเสร็จ เธอพัฒนาความสนใจในการแสดงออกทางความคิดในช่วงวัยรุ่นและเริ่มเรียนการแสดงในชั้นเรียนดราม่าที่สถาบันฮาร์วาร์ด-เวคแลนด์ เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในวัยสิบห้าเมื่อมีบทบาทในภาพยนตร์ ‘Waterland’ ที่กำกับโดยพ่อของเธอ เริ่มฉายในภาพยนตร์เวทีที่โรงละครเบิร์กลีย์ แรพเพอทอรี ธีเตอร์ในการแสดง ‘Closer’ ของแพทริก มาร์เบอร์ และได้รับรีวิวที่เชิดช praisingี้สำหรับบทบาทนั้น บทที่เน้นในภาพยนตร์คอมเมดี้เข้มข้น ‘Secretary’ ที่เธอได้รับรางวัลใหญ่ครั้งแรกและความชื่นชอบจากวงการวิจารณ์ แม็กกี้แต่งงานกับนักแสดง เปเตอร์ ซาร์สการ์ด และมีลูกสาวสองคน ชื่อเรมอนาและกโลเรีย เรย์ ซาร์สการ์ด

Jake Gyllenhaal and Maggie Gyllenhaal: All About Their Brother-Sister  Relationship

 

วัยเด็กและชีวิตตอนเริ่มต้น
แม็กกี้ จิลเลนฮอล์ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ที่นครนิวยอร์ก ตัวเธอเป็นลูกสาวของผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ สตีเฟ่น จิลเลนฮอลล์ และนักเขียนบทภาพยนตร์ นาโอมิ โฟนเนอร์ จิลเลนฮอลล์ เธอมีน้องชายคนน้อย คือ เจค จิลเลนฮอล์ ที่เป็นนักแสดงเช่นกัน
ครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ที่ลอสแอนเจลิสเมื่อเธอยังเป็นทารก เธอมีความสนใจในการแสดงออกทางความคิดตั้งแต่วัยเด็ก และเรียนการแสดงในโรงเรียนเตรียมวิทยา ฮาร์วาร์ด–เวสต์เลค ซึ่งเธอสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2538 และเรียนวรรณกรรมและศาสนศาสตร์ตะวันออกที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ก

การทำงาน
แม็กกี้ จิลเลนฮอล์ ทำการเตรียมความพร้อมสู่วงการภาพยนตร์ในอายุสิบห้าขวบเมื่อปี พ.ศ. 2535 ด้วยบทบาทในภาพยนตร์ ‘Waterland’ ซึ่งกำกับโดยพ่อของเธอ เรื่องถัดมาของเธอคือ ‘A Dangerous Woman’ (1993) และ ‘Homegrown’ (1998) ที่เธอยังคงได้บททำให้เป็นนักแสดงบทหลักด้วยและพ่อของเธอเป็นผู้กำกับ และน้องชายของเธอก็เข้าร่วมในบางงานเช่นกัน เธอยังมีการแสดงในภาพยนตร์โทรทัศน์ ‘The Patron Saint of Liars’ ในปี พ.ศ. 2541

เธอทำการเปิดตัวในภาพละครที่เวทีเป็นครั้งแรกด้วย ‘Closer’ เมื่อปี พ.ศ. 2543 และมีบทบาทเป็นตัวย่อมในภาพยนตร์ ‘Cecil B. Demented’ ในปี พ.ศ. 2543 และ ‘Riding in Cars with Boys’ ในปี พ.ศ. 2544 แม็กกี้ ได้รับการยอมรับอย่างมากสำหรับการแสดงของเธอในภาพยนตร์ ‘Donnie Darko’ ในปี พ.ศ. 2544
‘คลังสารพัด’ ในปี พ.ศ. 2545 เป็นหนังที่ทำให้เธอกลายเป็นดาวในวงการและเธอได้รับรางวัลครั้งแรกสำหรับการแสดงในภาพยนตร์ เธอแสดงความสามารถในการแสดงในภาพยนตร์คอมเมดี้เช่น ‘Adaptation’ และ ’40 Days and 40 Nights’ ในปี พ.ศ. 2545

แม็กกี้ จิลเลนฮอล์ ต่อมามีบทบาทในภาพยนตร์ ‘Confessions of a Dangerous Mind’ (2002), ‘Casa de los Babys’ (2003), และ ‘Mona Lisa Smile’ (2003) และกลับมาแสดงในละครเวทีด้วย ‘Homebody/Kabul’ ในปี พ.ศ. 2546

ในช่วงระยะเวลาสองปีต่อมาเธอปรากฏตัวในภาพยนตร์ ‘Criminal’ (2004), ‘Strip Search’ (2004), ‘Happy Endings’ (2005), ‘The Great New Wonderful’ (2005), และ ‘Trust the Man’ (2005) เธอแสดงบทบาทของนักเย็บยึดยิ้มเม็ดสารเสพติดใน ‘Sherrybaby’ ในปี พ.ศ. 2549

เธอปรากฏในภาพยนตร์ ‘Paris, je t’aime’, ‘World Trade Center’, และ ‘Stranger than Fiction’ ในปี พ.ศ. 2549 และให้เสียงพากย์ใน ‘Monster House’ ในปีเดียวกัน เธอยังปรากฏในภาพยนตร์สั้น ‘High Falls’ ในปี พ.ศ. 2550

แม็กกี้ จิลเลนฮอล์ แสดงบทบาทหลักในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ ‘The Dark Knight’ ในปี พ.ศ. 2551 เธอเล่นบทของอาจารย์ปรัชญาแบบบูโฮมีเยียมใน ‘Away We Go’ ในปี พ.ศ. 2552 และมีบทบาทในละครเวที ‘Uncle Vanya’ ในปี พ.ศ. 2552

เธอได้รับความชื่นชอบจากวงการวิจารณ์และเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และการแสดงสนับสนุนในภาพยนตร์ ‘Crazy Heart’ ในปี พ.ศ. 2552 เธอปรากฏในภาพยนตร์ ‘Nanny McPhee Returns’ (2010) และ ‘Hysteria’ (2011), และเข้าร่วมในการแสดงของ Classic Stage Company ‘Three Sisters’ ในปี พ.ศ. 2554 เธอเป็นนักแสดงส่งเสริมในสารคดี ‘Discovery’s “Curiosity”‘ ในปี พ.ศ. 2555 และปรากฏในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ ‘The Corrections’ ในปี พ.ศ. 2555

เธอแสดงใน ‘Won’t Back Down’ (2012), ‘White House Down’ (2013), ‘Frank’ (2014), ‘River of Fundament’ (2014) และ ‘The Real Thing’ ที่ American Airlines Theater ในปี พ.ศ. 2557 เธอยังปรากฏในซีรีส์ทางโทรทัศน์ ‘The Honourable Woman’ ในปี พ.ศ. 2557

การแสดงการเล่าเรื่องของแม็กกี้ จิลเลนฮอล์ ใน ‘Anna Karenina’ ของ เลออ โตลสตอย ได้เปิดขายในสิงหาคม พ.ศ. 2559 เธอเล่นบทเธอเองในหนึ่งตอนของ ‘Inside Amy Schumer’ ในปี พ.ศ. 2559 และบทแสดงการเล่าเรื่องของเธอในสารคดี ‘Truth and Power’ ในปีเดียวกัน เธอปรากฏในซีรีส์ ‘The Deuce’ ในปี พ.ศ. 2560

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours